ผู้เขียน หัวข้อ: พระมหาสมปอง(อ่านเถอะพี่น้อง ฮาโครต)  (อ่าน 1030 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ หัวโต

  • AMT User
  • Full Member
  • *****
  • กระทู้: 183
  • คะแนนน้ำใจ: 0
  • คนที่ล้มเหลวไม่ได้แพ้...แต่คนที่แพ้คือคนที่ล้มเลิก
เรื่องวัตถุดิบ

ญาติโยมหลายท่านมักถามว่า
" ท่านบวชเรียนมาตั้งแต่อายุยังน้อย อยู่ในเพศบรรพชิตมามากกว่าครึ่งชีวิต มีโอกาสสัมผัสชีวิตฆราวาส
ไม่มากนัก
แล้วเอาข้อมูล วัตถุดิบหรือมุกมาจากไหนหนักหนา"

อาตมาก็ตอบว่า หลักๆ เลยก็คือ การอ่าน นอกจากนั้นก็หนัง ละคร   ที่ญาติโยมดูกันนั่นแหละ
พอตอบออกไปอย่างนี้ โยมก็สวนกลับทันที
" ไม่ผิดข้อห้ามหรือท่าน"

อาตมาก็จะอธิบายไปว่า ดูเพื่อให้เท่าทันกิเลสจะได้สกัดมันถูก   และที่สำคัญ   หากอาตมาไม่รู้หรือไม่
เข้าใจ
ตลอดจนไม่เท่าทันเรื่องราวทางโลกและ   จะมาบรรยายธรรมให้ญาติโยมรู้สึกอินกันได้อย่างไร
ซึ่งนอกจากการอ่าน   การดูและการฟังแล้ว   หลายวัตถุดิบที่นำมาสร้างเป็นมุกฮา ก็ได้มาจากการพูด
คุยกับ
เหล่าโยมๆ นี่แหละ
   อย่างวันหนึ่งระหว่างที่อาตมากำลังฉันเพลอยู่ก็มีโยมท่านหนึ่งโทร.มา
   " พระอาจารย์เหรอคะ   นี่อาตมาเองนะคะ"
   " หา อะไรนะ"
   " พระอาจารย์เหรอคะ   นี่อาตมาเองค่ะ"
   " ถ้าโยมแทนตัวว่าอาตมา แล้วอาตมาจะแทนตัวอาตมาว่าอะไร"
   " อ๋อ ขอโทษค่ะ"
   หลังจากนั้นก็คุยธุระกันจนจบ อาตมาก็กล่าวว่า
   " เจริญพร"
   " ค่ะ เจริญพรเช่นกัน"
   แน่ะ มีอวยพรให้พระด้วย

   ข้างต้นก็คือ   สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ ระหว่างพูดคุยกับเหล่าญาติโยม   จนถือว่าเป็นเรื่อง
ปกติสำหรับอาตมาไปแล้ว   หรืออย่างก่อนหน้านี้มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง เดินถือสังฆทานมาอย่างมาดมั่น
พอเข้ามาในกุฏิแล้ว   เธอก็มุ่งตรงไปที่พระบวชใหม่รูปหนึ่งทันที
   " ถวายสังฆทานค่ะ"
   พระบวชใหม่ด้วยความที่ยังจำบทสวดต่างๆ ไม่ค่อยคล่องนัก จึงหยิบหนังสือขึ้นมาดู
   " ไม่ต้องค่ะ" โยมผู้หญิงคนนั้นกล่าวอย่างหนักแน่นตามสไตล์สาวมั่น
   " ดิฉันท่องได้ค่ะ เพราะคุณยายพาเข้าวัดตั้งแต่เด็กๆ" เธอพนมมือขึ้น ก่อนกล่าวว่า
   " อิมานิ มะยัง ภันเต สะปะริวารานิ คิกขุ สังโฆ"   ( ที่ถูกต้อง จะต้องเป็น ภิกขุ สังโฆ)
   พระบวชใหม่มีสีหน้างุนงง ก่อนหันมาถามอาตมา
   " คิกขุสังโฆ นี่มันฟังทะแม่งๆ นะหลวงพี่"
   อาตมาเกรงว่าโยมผู้นั้นจะหน้าแตก ก็เลยตอบไปว่า
   " คิกขุ แปลว่า น่ารัก     สังโฆ   แปลว่า สงฆ์     คิกขุสังโฆ   ก็คือ แด่พระสงฆ์ผู้น่ารัก"

   เท่านั้นแหละ พระใหม่รูปนั้นนั่งยืดทั้งวันเลย

   แต่ก็มีบางกรณี   ที่การพูดผิดของคุณโยมทำให้อาตมาแทบจะสำลัก
   อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ มีโยมท่านหนึ่งโทรศัพท์มา
   " หลวงพี่ขา   ขอเรียนเชิญนิมนต์ค่ะ"
   " ไปไหนล่ะโยม"
   " ไปมรณภาพที่บ้านน่ะค่ะ"
   โห นิม นต์พระไปตายถึงที่บ้านเลย   อาตมาจึงบอกไปว่า   ถ้านิมนต์ไปงานศพไปให้ได้
แต่ถ้าเชิญไปมรณภาพนี่   ช่วงนี้อาตมาไม่ว่างจริงๆ ขอตัวเถอะนะโยม

   จากตัวอย่างที่อาตมาเล่าไว้ข้างต้น   คุณโยมอาจจะเห็นเป็นเรื่องขบขัน   แต่มันก็สะท้อน
ให้เห็นความห่างเหินระหว่างคนกับวัดได้ในระดับหนึ่ง   ปัจจุบันนี้คนจะนึกถึงวัดในกรณีพิเศษ
เท่านั้น   เช่นงานบวช   งานศพ   ต่างกับสมัยก่อนที่วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน   ฆราวาสกับพระจึง

สนทนากันไหลลื่น   ไม่มีคำแปลกๆ หรือผิดที่ผิดทางออกมาให้พระสุดุ้งแต่อย่างใด
   ซึ่งถ้าพูดถึงศัพท์แสงที่แสลงใจแล้ว   ตอนไปบิณฑบาตอาตมาจะเจอบ่อยมาก เช่นมีอยู่
ครั้งหนึ่งระหว่างที่กำลังเดินๆ อยู่   ก็ได้ยินเสียงใสๆ แว่วขึ้นมา
   " แม่ๆ พระมาขอข้าว"
   " มาเยอะไหมลูก"
   " มา 2   อัน"
   โห   เรียกอย่างกับชิ้นส่วนรถยนต์ นี่ถ้ามาเยอะๆไม่เรียกเป็นฝูงเลยเหรอ
   ดังนั้นเวลาไปบรรยายธรรมให้นักเรียนฟังอาตมาจะนำเรื่องนี้ไปสอดแทรกเพื่อสอน
เด็กๆ ด้วย
   " ถ้าพระกิน   เรียกว่า   ฉัน"
   " พระนอน เรียกว่า จำวัด" (บางคนเรียกขี้เกียจเป็นพระนอนไม่ได้)
   " พระป่วย เรียกว่า อาพาธ"
   " พระตาย   เรียกว่า มรณภาพ" (ไม่ใช่เรียกป่อเต็กตึ๊งนะ)
   " แล้วพระอาบน้ำล่ะ เรียกว่าอะไรเอ่ย"   คราวนี้อาตมาถามให้เด็กๆ ตอบบ้าง
   " เรียกคนมาดู"
;     จบกัน




ampmobile

  • บุคคลทั่วไป
Re: พระมหาสมปอง(อ่านเถอะพี่น้อง ฮาโครต)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2009, 04:32:14 pm »
  • Publish
  • Publish
  •  :Dเห็นเครียสมาแทรกหัวเราะกั แฮ่ๆ แฮ่ๆ

     


    Facebook Comments