ผู้เขียน หัวข้อ: นิทานก้อมหรือนิทานพื้นบ้าน  (อ่าน 9641 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ SE

  • Administrator
  • Hero Member
  • *********
  • กระทู้: 4 271
  • คะแนนน้ำใจ: 100
นิทานก้อมหรือนิทานพื้นบ้าน
« เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 01:02:56 pm »
  • Publish
  • Publish
  • อยากฟังครับ ใครมีนิทานพื้นเมืองสนุกๆหรือเป็นคติสอนใจต่างๆก็เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ ถ้านึกได้ก็จะมาเล่าเหมือนกัน แต่ตอนนี้ขอฟังของคนอื่นก่อน  อิๆ
    « แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 19, 2009, 05:41:25 pm โดย SE »



    TEAM DRAGON

    • บุคคลทั่วไป
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 01:40:31 pm »
  • Publish
  • Publish
  • นิทาน นิทาน นิทาน ผู้เฒ่าหำยาน นิทานจบจ้อย

     แบร่ แบร่ แบร่

    ออฟไลน์ SE

    • Administrator
    • Hero Member
    • *********
    • กระทู้: 4 271
    • คะแนนน้ำใจ: 100
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 02:09:18 pm »
  • Publish
  • Publish
  • นิทาน นิทาน นิทาน ผู้เฒ่าหำยาน นิทานจบจ้อย

     แบร่ แบร่ แบร่
    ก้อมอีหลีเนาะ งึดหลาย


     ฮากลิ้ง ฮากลิ้ง ฮากลิ้ง ฮากลิ้ง

    teng

    • บุคคลทั่วไป
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 02:57:02 pm »
  • Publish
  • Publish
  • นิทาน นิทาน นิทาน ผู้เฒ่าหำยาน นิทานจบจ้อย

     แบร่ แบร่ แบร่
    โห.....พี่เล่นซะฮาเลย

    teng

    • บุคคลทั่วไป
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 03:13:00 pm »
  • Publish
  • Publish
  • เอานิทานความรู้ไปก่อน เดี๋ยวฮาๆ นึกขึ้นได้ก่อนจะเอามาลงเพิ่ม
                     กาลลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีโสติงไม่คายสะบ้อย หย่ำในทู่ (ยังมีสิงห์โต อยู่ในถ้ำ ไม่ค่อยสบาย) อิๆ ล้อเล่นน่า
    เอาเรื่องจริงเลยครับ เริ่มเลย
                         
                                 "มดง่ามกับจักจั่น"
       กาลครั้งหนึ่งในฤดูฝน เช้าวันที่มีแสงแดดสดใส มดง่ามกลุ่มหนึ่งช่วยกันกุลีกุจอขนอาหารที่หามาได้
    ในฤดูร้อนออกผึ่งแดด ขณะนั้นมีจักจั่นผอมโซ เดินโซเซผ่านมาเห็นเข้าจึงเดินไปหากลุ่มมดง่าม แล้วพูดว่า
    "ข้าพเจ้าขาดอาหารมาหลายวัน ขออาหารให้ข้าพเจ้ากินประทังความหิวสักหน่อยได้หรือไม่" มดง่ามจึงถามขึ้นว่า
    "ในฤดูร้อน มีอาหารอุดมสมบูรณื ท่านไปทำอะไรจึงไม่เพียรหาอาหารมาเก็บไว้"  จักจั่นตอบว่า
    "ข้าพเจ้าหาเวลาว่างไม่ได้เลย ในฤดูร้อนข้าพเจ้าเที่ยวเดินร้องเพลงเพลิดเพลินไปทั้งวัน" ฝ่ายมดง่ามได้ยินดังนั้นจึงพูดเย้ยขึ้นว่า
    "ในเมื่อฤดูร้อนท่านเอาแต่ร้องเพลงไปวันหนึ่งๆ ในฤดูฝนท่านไม่หัดเต้นรำไปซะเลยละ..............จบ

    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
         ขณะที่ยังแข็งแรงดีอยู่ หากไม่ทำงานหาทรัพย์สมบัติเอาไว้ เมื่อถึงคราป่วยไข้จะได้รับความลำบากยากแค้นยิ่งนัก
    แล้วท่านละ ได้คติเตือนใจอะไรจากเรื่องนี้ ;)

    ออฟไลน์ SE

    • Administrator
    • Hero Member
    • *********
    • กระทู้: 4 271
    • คะแนนน้ำใจ: 100
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 03:17:39 pm »
  • Publish
  • Publish
  • อืม อ่านแล้วได้คติเตือนใจจริงๆครับ

    ว่างจากซ่อมมือถือแล้วควรหาเวลาเต้นรำด้วย 
    ก้ากๆ ก้ากๆ ก้ากๆ

    ampmobile

    • บุคคลทั่วไป
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 04:19:22 pm »
  • Publish
  • Publish
  • ขอเริ่มหนึ่งเรื่อง
    ท้าวกำพร้าเรียนมนต์ตด


    ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีเด็กน้อยกำพร้าอยู่คนหนึ่ง ญาติพี่น้องไม่มีใครสนใจ
    เขาจึงต้องเที่ยวเร่ร่อนขอทานตามหมู่บ้านต่างๆ พอได้กินไปวันๆ หลวงพ่อที่วัดแห่งหนึ่ง
    สงสารจึงรับเลี้ยงไว้เป็นลูกศิษย์ในวัด

    ในสมัยนั้นเด็กผู้ชายจะต้องออกจากบ้านไปหาเรียนวิชา แล้วแต่ใครต้องการ
    เรียนอะไรหลวงพ่อก็สั่งท้าวกำพร้าให้ไปเรียนวิชาเช่นกัน โดยก่อนไปได้กำชับว่า
    "เรียนอะไรก็เรียนให้จบ และอยากเรียนอะไรก็ให้เลือกเรียนได้ตามใจชอบหลวงพ่อไม่ว่าอะไร"

    ณ สำนักเรียนที่มีอาจารย์เก่งทางวิชาอาคม เวทมนตร์ต่างๆ เปิดสอนให้กับผู้คนทั่วไป
    โดยเฉพาะคนหนุ่มๆนิยมไปเรียนกันมาก หลายคนเลือกเรียนวิชาตามใจชอบ แต่ท้าวกำพร้า
    กลับเลือกเรียนในวิชาที่ไม่มีใครเรียนกัน นั่นคือ "วิชามนต์ตด" เขาเพียรพยายามเรียนจนจบ
    ตามที่หลวงพ่อสั่งไว้ว่าเรียนอะไรก็เรียนให้จบ

    ข่าวการเรียนมนต์ตดได้ยินไปถึงหูของญาติพี่น้องของเขา ยิ่งเพิ่มความจงเกลียดจงชังมากขึ้น
    "เรียนอะไรไม่เรียนไปเรียนมนต์ตด ไม่ต้องเรียนมันก็ตดอยู่แล้ว ไปเรียนให้เสียเวลาทำไม"
    ญาติคนหนึ่งบ่น

    อันตัวข้าพเจ้ามีนามกรว่า...ท้าวกำพร้า
    ได้ศึกษาวิชา...มนตราว่าด้วยตด...ทั้งตดยาว...ตดสั้น
    ตดไปข้างหน้า...ตดมาข้างหลัง...ตดลอยสูง...ตดลอยต่ำ
    ตดควบคุมเสียง...ตดเสียงสูง...เสียงต่ำ...ตดดัง...ตอค่อย
    ตดไร้เสียง...................................................................
    ..................................................................................
    ตดควบคุมกลิ่น...ทั้งกลิ่นหนา...กลิ่นบาง...ตดสร้างมิตร...
    เสน่ห์ยาแฝด...ตดใส่หญิง หญิงรัก...ตดใส่ชาย ชายหลง..
    ..ตดใส่ตุ๊ด ตุ๊ดเป็นลม...เอ้ยไม่ใช่...หลงคารม.................
    ตดกลิ่นทำลายมิตรภาพ...........ตดพิฆาตศัตรูพ่าย......
    ..........................................เมื่อศึกษาจนแตกฉาน
    คิดทำการณ์สิ่งใด ก็สำเร็จดังประสงค์
      แบร่ ก้ากๆ
     
     


    พอเรียนจบเขากลับมาหาหลวงพ่อและเล่าเรื่องราวการเรียนให้หลวงพ่อฟัง
    หลวงพ่อไม่ว่าอะไรได้แต่ให้กำลังใจว่า "ใครจะว่าอะไรก็อย่าไปสนใจ วิชาอะไรทุกอย่าง
    มันมีคุณทั้งนั้น ขอให้รักษาวิชาตดไว้ให้ดีบางทีเราอาจได้อาศัย"

    อยู่มาวันหนึ่งมีเรือสำเภาขนาดใหญ่ขนสัมภาระเพื่อไปจำหน่ายมากมาย
    พอไปถึงหมู่บ้านนั้นเกิดไปติดหาดทรายไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ จ้างคนทั้งหมู่บ้าน
    ลากเข็นก็ไม่ไป พอดีเท้ากำพร้าเดินไปพบเข้าจึงพูดออกไปว่า
    "เรือติดแค่นี้ ไม่ต้องทำอะไรมากเลย เพียงแค่ตดใส่เท่านั้นก็ออกได้แล้ว"

    นายสำเภาได้ยินดังนั้นก็โกรธแค้นมาก คิดว่าท้าวกำพร้าพูดสบประมาท
    "ข้าจ้างคนทั้งหมู่บ้านยังลากออกไม่ได้ เอ็งเก่งมาจากไหนจะมาตดใส่ให้สำเภาออกได้"
    พอพูดจบนายสำเภาก็สั่งลูกน้องให้จับตัวท้าวกำพร้าไว้ ฐานพูดจาดูหมิ่น

    "ช้าก่อนท่าน" ท้าวกำพร้าชิงพูดขึ้น "ข้ายังไม่ทันตดให้ดูเลย ทำไมท่านถึงคิดว่าทำไม่ได้
    ต้องพิสูจน์กันก่อนซิ ถ้าข้าตดแล้วสำเภาออกไปได้ ท่านจะยอมให้สินค้าทั้งหมดบนเรือแก่ข้าไหม"

    "ตกลง ถ้าสำเภาเคลื่อนไปได้ ข้าจะยกสินค้าในสำเภาให้เอ็งหมด แต่ถ้าเคลื่อนไม่ได้
    เอ็งจะต้องถูกฆ่าตาย" นายสำเภาตกลงและต่อรอง
     แฮ่ๆ
    เมื่อตกลงดังนั้นแล้ว ท้าวกำพร้าจึงยกมือเหนือหัวแล้วอธิษฐานถึงครูบาอาจารย์
    เสร็จแล้วจึงเบ่งตดออกมาเสียงดัง "ป็าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาด"ทุกคนตกตะลึงแทบไม่เชื่อสายตาที่สำเภาได้ค่อยๆเคลื่อนออกจากหาดทราย
    นายสำเภาดีใจมาก จึงได้มอบสินค้าทุกอย่างที่มีบนเรือ ให้หนุ่มน้อยไปตามสัญญา

    จากนั้นท้าวกำพร้าก็มีฐานะร่ำรวย ไม่อดอยากอีกต่อไป

    จบบริบูรณ์
    ;D
     

    amp_spv

    • บุคคลทั่วไป
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 04:21:29 pm »
  • Publish
  • Publish
  • ปิดจมูกแทบไม่ทัน กำ. กำ.

    ออฟไลน์ SE

    • Administrator
    • Hero Member
    • *********
    • กระทู้: 4 271
    • คะแนนน้ำใจ: 100
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #8 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 04:29:16 pm »
  • Publish
  • Publish
  • ท้าวกำพร้าตดที วีโก้ผมใหลออกไปถนนใหญ่เลย   ฮากลิ้ง

    ampmobile

    • บุคคลทั่วไป
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #9 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 04:31:30 pm »
  • Publish
  • Publish
  • ท้าวกำพร้าตดที วีโก้ผมใหลออกไปถนนใหญ่เลย   ฮากลิ้ง
    ดีนะครับมีมนต์ตดแล้วไม่เปลืองน้ำมัน   ฮากลิ้ง

    ampmobile

    • บุคคลทั่วไป
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #10 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 04:37:47 pm »
  • Publish
  • Publish

  • แอ่นๆๆตามด้วยเรื่องที่สอง
    ใครโง่กว่ากัน

    มีชายสองคนพี่น้อง คนพี่ชื่อดำเป็นคนขยันทำมาหากิน เงินทองที่หามาได้ก็รู้จักใช้จ่าย
    จนมีเงินเก็บอยู่บ้าง ส่วนคนน้องชื่อแดงเป็นคนเกียจคร้าน ไม่เอาใจใส่ต่อการทำงาน ได้เงินมา
    ก็ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ไม่มีเงินเก็บหอมรอมริบ คอยแต่เบียดเบียนนายดำผู้พี่ ยิ่งไปกว่านั้นถ้านายดำ
    เผลอเมื่อไหร่ เป็นอันต้องถูกนายแดงขโมยเงินเสมอ ไม่ว่านายดำจะซุกซ่อนเงินไว้ตรงไหน

    อยู่มาวันหนึ่งนายดำต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน จึงคิดหาวิธีที่จะซ่อนเงินที่มีอยู่หนึ่งพันบาท
    ให้มิดชิดที่สุด คิดอยู่นานก็หาที่ซ่อนไม่ได้ จะเอาซ่อนตรงไหนๆ ก็เกรงว่านายแดงจะมาขโมยไป

    ในที่สุดก็ตัดสินใจขุดหลุมฝังซ่อนไว้ดีกว่า จึงลงจากเรือนคว้าจอบใส่บ่าเดินออกหลังบ้าน
    แล้วขุดหลุมเอาเงินห่อกระดาษใส่ลงก้นหลุม เอาดินกลบและดูความเรียบร้อย ดูไปดูมานายดำก็คิดว่า
    "นี่ถ้านายแดงมาเห็นรอยเรากลบหลุมไว้อย่างนี้ คงต้องรู้ว่าเราฝังเงินเอาไว้แน่"

    พลันความคิดของนายดำก็เกิดขึ้น เอาอย่างนี้ดีกว่าเราเขียนป้ายมาปักไว้ที่หลุมนี้ว่า
    "เงินหนึ่งพันบาทของนายดำ ไม่ได้อยู่ในหลุมนี้" นายแดงก็คงจะไม่สงสัยเป็นแน่
    คิดแล้วนายดำก็จัดการเขียนป้ายดังกล่าวมาปักไว้ที่หลุม เสร็จแล้วก็จัดแจงแต่งตัวออกจากบ้านไป

    ฝ่ายนายแดงหลังจากเที่ยวเตร็ดเตร่อยู่หลายวัน จนเงินหมดจึงกลับบ้าน ไม่พบพี่ชาย
    จึงได้โอกาสเหมาะเที่ยวค้นหาเงิน เชื่อว่าพี่ชายจะต้องซ่อนไว้ที่ไหนซักแห่งแน่ ค้นหาบนบ้านอยู่นาน
    ก็ไม่พบ จึงเดินลงจากเรือนไปค้นตามหลังบ้าน ก็พบป้ายหนึ่งเขียนไว้ว่า
    "เงินหนึ่งพันบาทของนายดำไม่ได้อยู่ในหลุมนี้"
    เมื่อนายแดงอ่านป้ายดูแล้วก็เกิดความสงสัยว่า เมื่อไม่มีเงินแล้วจะเขียนป้ายบอกไว้ทำไม
    จึงลงมือขุดดู ก็พบเงินที่ซ่อนไว้ เมื่อได้เงินมาแล้วนายแดงเกิดนึกขึ้นได้ว่า ถ้าพี่ชายกลับมาเห็น
    เงินในหลุมหายไปก็คงโทษเราแน่ อย่ากระนั้นเลยเราเขียนป้ายปักไว้ดีกว่า เมื่อพี่ชายมาเห็นจะได้
    คิดว่าเราไม่ได้เอาไป คิดดังนั้นแล้วนายแดงก็จัดการเขียนป้ายมาปักไว้ที่หลุมว่า
    "เงินหนึ่งพันบาทในหลุมนี้นายแดงไม่ได้เอาไป"[/
    [/b]color][/size]
    ฮากลิ้ง

    ออฟไลน์ SE

    • Administrator
    • Hero Member
    • *********
    • กระทู้: 4 271
    • คะแนนน้ำใจ: 100
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #11 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 04:41:19 pm »
  • Publish
  • Publish
  •  กำ. พอปานกันทั้งพี่ทั้งน้อง  ก้ากๆ

    TEAM DRAGON

    • บุคคลทั่วไป
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #12 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 04:47:49 pm »
  • Publish
  • Publish


  • ผมเห็นแว็บๆ แม่นรถจารย์ บ่คับ อาณุภาพของตดแท้ๆเลย

    ออฟไลน์ SE

    • Administrator
    • Hero Member
    • *********
    • กระทู้: 4 271
    • คะแนนน้ำใจ: 100
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #13 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 04:49:46 pm »
  • Publish
  • Publish
  •  โอ้ว หมุ่นอุ้ยปุ้ยเลย บ่แม่นรถเฮาเด้อ

    ampmobile

    • บุคคลทั่วไป
    Re: นิทานก้อม หรือนิทานพื้นเมือง
    « ตอบกลับ #14 เมื่อ: มกราคม 16, 2009, 04:51:00 pm »
  • Publish
  • Publish
  •  เมากลิ้ง ;Dขออภัยตดแรงไปหน่อย แฮ่ๆ

     


    Facebook Comments