หัวข้อ: กิจการโทรคมนาคมในปี 2012

[danai8029]

กิจการโทรคมนาคมในปี 2012

           กิจการโทรคมนาคมที่สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการในอนาคตอันใกล้นี้คือ กิจการโทรคมนาคมไร้สาย  เช่น  เทคโนโลยี 4G  ที่มีความเร็วข้อมูลตามมาตรฐานที่ 100 เมกกะบิตต่อวินาที (Mbps)  และสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 1 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps)  ที่เป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะรัฐบาล องค์กรภาครัฐ หรือผู้ให้บริการเป็นผู้กำหนด  แต่เพราะการพัฒนาเทคโนโลยีของโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบพกพาจะกำหนดให้เกิดความต้องการของผู้บริโภค การ หลอมรวมของโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีขีดความสามารถแบบคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบพกพาที่มีขีดความสามารถแบบโทรศัพท์เคลื่อนที่  ประกอบกับขีดความสามารถที่เทียบเท่ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ  จึงมีความต้องการความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเทียบเท่ากับสาย LAN  100 เมกกะบิตต่อวินาที (Mbps) และด้วยเทคโนโลยี 4G ที่มีระบบพื้นฐานเป็น IP เหมือนบริการอินเตอร์เน็ต จะสามารถรองรับความต้องการนั้น

          ทำไมถึงต้องเป็นกิจการโทรคมนาคมไร้สาย เช่น 4G  หากมองเพียงผิวเผินในมุมมองของคนกรุงเทพและปริมณฑล  ซึ่งได้รับโอกาสเข้าถึงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตอย่างเพียงพอทั้งทางสายทองแดง    โทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย เช่น Wifi Hotspot ที่มีอยู่ทั่วไปแล้ว  ย่อมไม่เข้าใจถึงความสำคัญของกิจการโทรคมนาคมไร้สายที่เป็นบริการสาธารณูปโภคหลักของประชาชนในจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่กรุงเทพและปริมณฑล   ทั้งนี้เพราะการตั้งถิ่นฐานแบบกระจายตัวของประชาชนในต่างจังหวัด  ทำให้การบริการทางสาย ไม่ว่าจะเป็นบริการโทรศัพท์หรืออินเตอร์เน็ต ในมุมมองของผู้ประกอบการมีความคุ้มค่าน้อยต่อการลงทุน  แม้กระทั่งในอำเภอเมืองของแต่ละจังหวัด โครงข่ายโทรคมนาคมทางสายก็ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่   ดังนั้นโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รองรับบริการอินเตอร์เน็ตเสมือนการใช้งานผ่านสายทองแดง ย่อมเป็นที่ต้องการของประชาชน  เพราะสามารถใช้บริการโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตได้พร้อมกัน  โดยที่ผู้ประกอบการเองไม่ต้องลงทุนสร้างโครงข่ายสายเข้าถึงผู้ใช้บริการที่ตั้งถิ่นฐานแบบกระจายตัวนั้น  และในปี 55  อุปกรณ์ต่างๆที่รองรับเทคโนโลยี 4G ทั้งในส่วนของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ จะมีการผลิตออกมาจำนวนมากหลากหลายผู้ผลิตและหลากหลายผลิตภัณฑ์  ใน มุมมองของผู้ประกอบการแล้ว การลงทุนใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและมีผู้ผลิตจำนวน มากแล้ว ย่อมคุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว  ในขณะที่ผู้ใช้บริการก็มีทางเลือกในการใช้อุปกรณ์มากขึ้นตามความต้องการพื้นฐานของตนเอง  เพราะเทคโนโลยีใหม่ของผู้ให้บริการจะรองรับบริการในเทคโนโลยีเดิม เช่น 2G และ 3G ด้วย

                เทคโนโลยีไร้สายที่ควบคู่มากับ 4G คือ Mobile WiMAX (MBWA หรือ Mobile Broadband Wireless Access) ซึ่งอาจถูกเรียกว่า 4G เช่นเดียวกัน แม้ว่าความเร็วที่ 10 เมกกะบิตต่อวินาที (Mbps) จะไม่ใช่ความเร็วตามมาตรฐาน 4G    Mobile WiMAX เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดทางความคิดมาจาก WiFi ซึ่งมีขอบเขตสัญญาณไม่เกิน 500 เมตร ไปสู่การขยายพื้นสัญญาณเช่นเดียวกับสถานีฐานโทรศัพท์ เคลื่อนที่คือ 5 – 15 กิโลเมตร และสามารถใช้งานในขณะเคลื่อนที่ได้ ความเร็วที่ระบุไว้ขณะนี้ เป็นความเร็ว ขั้นต้น ด้วยเทคโนโลยีแล้วยังสามารถพัฒนาความเร็วขึ้นไปได้อีกมาก  และปัจจุบันได้มีการใช้งานแล้วในหลายประเทศ และมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ออกมารองรับเทคโนโลยี Mobile WiMAX หลายผู้ผลิตและหลายรุ่นด้วยกัน   

                ความแตกต่างของ 4G และ Mobile WiMAX คือ การพัฒนามาจากพื้นฐานเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน  4G พัฒนาจากเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีการพัฒนาต่อเนื่องจากโทรศัพท์พื้นฐาน  โทรศัพท์เคลื่อนที่อนาล็อก (1G)  โทรศัพท์เคลื่อนที่ดิจิตอล (2G และ 3G) ที่ ใช้อุปกรณ์ Circuit Switching ซึ่งมีจุดแข็งในเรื่องการติดต่อสื่อสารทางเสียงและการสื่อสารข้อมูลในขณะ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง และมีจุดอ่อนในเรื่องการรับส่งข้อมูลที่ต่อเนื่องจำนวนมาก ในขณะที่ Mobile WiMAX พัฒนาจากเทคโนโลยีสื่อสารข้อมูลแบบ IP ที่ใช้อุปกรณ์ Packet Switching  ซึ่งมีจุดแข็งในเรื่องการรับส่งข้อมูลที่ต่อเนื่องจำนวนมาก แต่มีจุดอ่อนในการใช้งานขณะเคลื่อนที่  ดังนั้นในมาตรฐานของ 4G จะได้แก้ไขจุดอ่อนโดยการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์พื้นฐาน ของโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่พื้นฐานทั้งหมดเข้าสู่ IP ซึ่งในปัจจุบันนี้มีอุปกรณ์ออกมารองรับการใช้งานแล้วเรียกว่า LTE (Long Term Evolution) หรือ Pre-4G หรือ 3.9G ที่มีการกล่าวถึงในห้วงที่ผ่านมา โดยมีความเร็วที่ 100 เมกกะบิตต่อวินาที (Mbps)   และเทคโนโลยี Mobile WiMAX ได้ แก้ไขจุดอ่อนให้สามารถใช้งานในขณะเคลื่อนที่ข้ามพื้นที่ให้บริการของแต่ละ สถานีได้ แม้ในเบื้องต้นนี้จะยังคงมีปัญหาหากเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง  และทั้ง Pre-4G และ Mobile WiMAX ที่กล่าวถึงนั้น ได้รับการพัฒนาและมีการใช้งานในหลายประเทศแล้ว ดังนั้นจึงมีความเป็นไปอย่างสูงที่เราจะได้ใช้เทคโนโลยี 4G และ Mobile WiMAX-advanced ในปี 2012 ซึ่งจะเริ่มมีการใช้งานในหลายประเทศทั่วโลก

                ทั้ง หมดนี้ คือเทคโนโลยีที่กิจการโทรคมนาคมของชาติต้องมุ่งไปสู่ เพื่อให้โอกาสคนไทยในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะในเมืองและในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร สามารถเข้าถึงบริการสื่อสารโทรคมนาคมพื้นฐาน เพื่อการติดต่อสื่อสารและแพร่กระจายข้อมูลข่าวสาร  การเข้าถึงองค์ความรู้และประโยชน์ทางการศึกษา  โอกาสทางธุรกิจและการดำเนินธุรกิจในทุกภาคส่วน   ซึ่งยังมีประโยชน์อื่นๆที่ประชาชนและประเทศจะได้ใช้และได้รับอีกมากมายจากเทคโนโลยีไร้สายที่ก้าวหน้า     ความหลากหลายของธุรกิจบริการต่างๆ บนประชาคมอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้น  เพื่อเอื้ออำนวยให้กับจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทั้งโดยจำนวนผู้ใช้บริการและระยะเวลาการใช้บริการ  ย่อมส่งผลกระทบให้ผลักดันระบบเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในที่สุด

______________________________________

อ้างอิง

1. 4G. Wikipedia. http://en.wikipedia.org/wiki/4G  วันที่สืบค้น 29 ก.ย.53.
2. WiMAX. Wikipedia.  http://en.wikipedia.org/wiki/WiMAX วันที่สืบค้น 29 ก.ย.53.
3. เทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารไร้สาย ยุค 4G. คลังข้อมูล Online. http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&cate_id=121&post_id=24248 วันที่บันทึก 17 ก.ย.51 วันที่สืบค้น29 ก.ย.53.
4.  เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ, พ.อ.รศ.ดร.  บรอดแบนด์ไร้สาย BWA (Broadband Wireless Access)  http://www.vcharkarn.com/varticle/40704  วันที่บันทึก 28 เม.ย.53  วันที่สืบค้น 30 ก.ย.53.
5. http://www.vcharkarn.com/vblog/113892

[AE_Mobile^]

ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ    ตีมือ   เทคโนโลยีก้าวล้ำ ยังไงๆ ก็ต้องพัฒนาตามแน่นอน แค่บ้านเราช้าไปนิดนึง แค่นั้นเอง  แฮ่ๆ

[pom_twz^]

ขอบคุณครับ ข้อมูลที่ทุกคนควรรู้โดยเฉพาะผู้ประกอบวิชาชีพมือถือทุกท่าน ขอบคุณอีกครั้งครับ ตีมือ